วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

บทที่ 3



B
A 13-year study of early childhood development at Harvard University has shown that, by the age of three, most children have the potential to understand about 1000 words - most of the language they will use in ordinary conversation for the rest of their lives.
Furthermore, research has shown that while every child is born with a natural curiosity, it can be suppressed dramatically during the second and third years of life. Researchers claim that the human personality is formed during the first two years of life, and during the first three years children learn the basic skills they will use in all their later learning both at home and at school. Once over the age of three, children continue to expand on existing  knowledge of the world.

v  Main Idea
                Early Childhood Development shown that children have the potential to understand language in communication and children  have a natural curiosity of life.
v  Supporting Details

                Research has study of early childhood development a 13-year. Children have the potential to understand language more 1,000 words in conversation. Every child  a natural of curiosity dramatically during the second and third years. Researchers claim that the human personality in two and first three years children learn the basic skills at home and at school.

วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

บทที่4

บทที่ 4
1.       Culture:
              Culture can be defined as all the ways of life including arts, beliefs and institutions of a population that are passed down from generation to generation. Culture has been called "the way of life for an entire society." As such, it includes codes of manners, dress, language, religion, rituals, games, norms of behavior such as law and morality, and systems of belief as well as the art.
วัฒนธรรมสามารถกำหนดเป็นวิธีการทั้งหมดของชีวิต รวมทั้งศิลปะความเชื่อและสถาบันการศึกษาของประชากรที่จะถูกส่งผ่านลงมาจากรุ่นสู่รุ่น  วัฒนธรรมที่ได้รับการเรียกว่า "วิถีชีวิตสำหรับสังคมทั้งหมด." เช่นนี้มันรวมถึงรหัสของมารยาทการแต่งกาย, ภาษาศาสนาพิธีกรรม, เกมส์, บรรทัดฐานของพฤติกรรม เช่น กฎหมายและศีลธรรมและระบบความเชื่อเช่นเดียวกับศิลปะ
2.       Cultured:
              Showing good taste or manners.
แสดงรสนิยม หรือ มารยาทที่ดี
3.       Ethics:
A system of accepted beliefs which control behavior, especially such a system based on morals.
ระบบความเชื่อที่ได้รับการยอมรับ ควบคุมพฤติกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบบนพื้นฐานของศีลธรรม
4.       Values:
Beliefs of a person or social group in which they have an emotional investment (either for or against something). "He has very conservatives values".
ความเชื่อของบุคคลหรือกลุ่มในสังคม ซึ่งพวกเขามีอารมณ์ในการลงทุน (สำหรับอย่างใดอย่างหนึ่งหรือต่อต้านบางสิ่งบางอย่าง) "พวกเขามีค่าจารีตนิยมอย่างมาก"
5.       Civilization:
               The social process whereby societies achieve an advanced stage of development and organization.
กระบวนการทางสังคมโดยสังคมระยะหนึ่งบรรลุขั้นสูง ของการพัฒนาและการจัดระเบียบ
6.       Cultural specificities:
It's interesting to learn about cultural specificities of other countries.
มันน่าสนใจไปยังการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมที่ไม่เฉพาะเจาะจงของประเทศอื่นๆ
7.       Culturally acceptable:
It isn't culturally acceptable in some countries to blow your nose in public places.
มันไม่ได้เป็นที่ยอมรับทางวัฒนธรรมในบางประเทศ ต่อการสั่งน้ำมูกของคุณในสถานที่สาธารณะ
8.       Cultural conflicts:
We should try hard to avoid cultural conflicts as they are a result of a misunderstanding.
เราควรจะพยายามอย่างหนักเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่พวกเขาเข้าใจผิด
9.       Cultural uniqueness:
Culture/customs which make a country distinctive/different from other countries.
วัฒนธรรม / ศุลกากร ที่ทำให้ประเทศ ที่โดดเด่น / แตกต่างจากประเทศอื่น ๆ
10.   Local culture:
Local culture refer to the culture developed at the local level.

วัฒนธรรมท้องถิ่น อ้างถึงวัฒนธรรมที่พัฒนาในระดับท้องถิ่น


วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2558

บทที่ 2

บทที่ 2

  1. การแนะนำตนเองต่อนักเรียน (Giving Self - introduction to Students)





 2.  การเริ่มบทสนทนากับผู้เรียน  (Breaking the Ice with Students) 







3. การให้คำปรึกษากับผู้เรียน (Giving Students Advices)





วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2558

ภาษาและวัฒนธรรม

         🌺 1. ความหมายของภาษา 🌺

         🔷  ไพบูลย์ ช่างเรียน (๒๕๓๒ : ๑๓) กล่าวว่า มนุษย์ใช้ภาษาเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดวัฒนธรรม ภาษาในที่นี้หมายถึงทั้งภาษาพูด ภาษาเขียน ตลอดจนสัญลักษณ์ต่างๆ ที่ใช้เป็นสื่อกลางในการสื่อความหมาย ถ้าหากวัฒนธรรมไม่ได้รับการถ่ายทอดวัฒนธรรมก็จะสูญหายไปจากสังคม
         🔷  วราคม ทีสุกะ (๒๕๓๔ : ๕๖) กล่าวว่า ภาษาเป็นเครื่องมือสื่อสารทางวัฒนธรรมอย่างสำคัญ ภาษาช่วยรักษาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ให้คงอยู่ เป็นเครื่องมือสืบสาว ความจำ เป็นสื่อจินตนาการถึงสถานการณ์ได้ชัดเจน
         🔷. ภาวัฒน์ พันธุ์แพ (๒๕๕๐ : ๕) กล่าวว่า ภาษาถือว่าเป็นกระจกที่สะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมไม่ว่าภาษานั้นจะเป็นภาษาพูดหรือแสดงออมมาโดยไม่ใช้คำพูดก็ตาม เช่นท่าทาง การยืน และการสบตา ดังนั้นการศึกษาภาษาจึงจำเป็นอย่างยิ่งต่อการศึกษาวัฒนธรรม
               
           🍀 สรุป "ภาษา" หมายถึง : เครื่องมือในการสื่อความหมายที่ใช้ในการถ่ายทอดความคิด ความรู้สึก ความต้องการของตนให้ผู้อื่นทราบ ไม่ว่าจะเป็นเสียงพูด ถ้อยคำ กิริยาอาการ หรือสัญลักษณ์ต่างๆ

         🌺 2. ความสำคัญของภาษา 🌺  

          ♥️ ภาษาเป็นวัฒนธรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชีวิตมนุษย์  แม้ว่าภาษาเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้  แต่ภาษาก็เข้ามามีบทบาทต่อการดำเนินชีวิตมนุษย์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน  เนื่องจากมนุษย์เป็นสัตว์สังคม  จำเป็นต้องอยู่ร่วมกัน  มีปฏิสัมพันธ์และติดต่อสื่อสาร  มนุษย์จึงจำเป็นต้องใช้ภาษาเพื่อเป็นสื่อกลางในการสื่อความหมายให้เกิดความเข้าใจต่อกัน
           ที่มา : https://sites.google.com/a/htp.ac.th/wathnthrrm-kab-phasa/2-wathnthrrm-kab-phasa
          ♥️ ภาษามีความสําคัญต่อมนุษย์มาก เพราะนอกจากจะเป็นเครื่องมือในการสื่อสารแล้ว ยังเป็น เครื่องมือของการเรียนรู้และการพัฒนาความคิดของมนุษย์ และเป็นเครื่องมือถ่ายทอดวัฒนธรรมและการ ประกอบอาชีพ ที่สําคัญ ภาษาช่วยเสริมสร้างความสามัคคีของคนในชาติอีกด้วยเพราะภาษาเป็นถ้อยคํา ที่ใช้ในการสื่อสารสร้างความเข้าใจกันในสังคม ภาษาจึงมีประโยชน์มากมาย ได้แก่ ภาษาช่วยธํารงสังคม ภาษาแสดงความเป็นปัจเจกบุคคล ภาษาช่วยให้มนุษย์พัฒนา ภาษาช่วยกําหนดอนาคต ภาษาช่วย จรรโลงใจ
          ที่มา : http://www.mwit.ac.th/~saktong/learn6/68.pdf
          ♥️ ความสำคัญของภาษา ภาษามีประโยชน์มากมาย ได้แก่ ภาษาช่วยธำรงสังคม ภาษาแสดงความเป็นปัจเจกบุคคล ภาษาช่วยให้มนุษย์พัฒนา ภาษาช่วยกำหนดอนาคต ภาษาช่วยจรรโลงใจ 
           ที่มา :  https://nungruatai11.wordpress.com/

               🍀 สรุป "ความสำคัญของภาษา" : ภาษาเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอันก่อให้เกิดความเป็นมนุษย์ที่มีการส่งเสริมบุคลิกภาพของการมีประสบการณ์ จนมีการสืบสานมรดกของแผ่นดิน เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารการค้า การลงทุน การสนทนา ที่เป็นลายลักษณ์อักษร และไม่เป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้ ภาษานั้นมีการพัฒนาเพิ่มมากขึ้น และเพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ที่ใช้ในการสื่อสาร และมีเอกลักษณ์เฉพาะ แต่ละประเทศ ที่ใช้ ภาษาต่างกัน

      🌺 3. ระดับภาษา 🌺

           ภาษานอกจากจะใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารความรู้ ความคิด ความรู้สึก ทัศนคติแล้ว ยังใช้ สร้างความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ มนุษย์ใช้ภาษาโดยคานึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างกัน โอกาส กาลเทศะ และประชุมชน ภาษาจึงมีลักษณะแตกต่างกันเป็นหลายระดับ เพื่อใช้ให้สัมฤทธิ์ผลสมความมุ่งหมาย
           ความรู้เกี่ยวกับระดับภาษาช่วยให้สามารถพูดและเขียนภาษาไทยได้ถูกตอ้ งเหมาะสมกับสัมพันธ์ ภาพของบุคคล โอกาส กาลเทศะ และประชุมชม เพื่อให้การสื่อสารเป็นที่เข้าใจและพอใจทั้งฝ่ายผู้ส่งสาร และผู้รับสารและบังเกิดสัมฤทธิ์ผลสามความมุ่งหมาย การแบ่งระดับภาษา ภาษาอาจแบ่งเป็นระดับต่าง ๆ ได้หลายวิธี เช่น

ก. แบ่งเป็น ๒ ระดับ คือ
   🍄 ระดับที่เป็นทางการ ( แบบแผน )
   🍄 ระดับที่ไม่เป็นทางการ ( ไม่เป็นเป็นแบบแผน )
ข. แบ่งเป็น ๓ ระดับ คือ
   🍄 ระดับพิธีการ ( แบบแผน )
   🍄 ระดับกึ่งพิธีการ ( กึ่งแบบแผน )
   🍄 ระดับไม่เป็นพิธีการ ( ไม่เป็นแบบแผนหรือภาษาปาก )
ค. แบ่งเป็น ๕ ระดับ คือ
   🍄 ระดับพิธีการ
   🍄 ระดับทางการ
   🍄 ระดับกึ่งทางการ
   🍄 ระดับไม่เป็นทางการ
   🍄 ระดับกันเอง
                    ที่มา : http://www.mwit.ac.th/~saktong/learn6/81.pdf

             🍀 สรุป "ระดับภาษา"  แบ่งออกเป็น 5 ระดับ ดังนี้

    1. ระดับพิธีการ 
    2. ระดับทางการ 
    3. ระดับกึ่งทางการ 
    4. ระดับไม่เป็นทางการ 
    5. ระดับกันเอง 
                    
     
                   🌺 4. ทักษะและเทคนิคการใช้ภาษา 🌺
🌕 ทักษะการใช้ภาษา
                ทักษะด้านภาษาที่ใช้ในการสื่อสารมีด้วยกัน 4 ทักษะ เมื่อเราเรียนรู้ภาษาหลักของเราเอง ทักษะแรกที่เราเรียนรู้ก็คือทักษะด้านการฟัง ต่อมาก็คือการพูด หลักจากนั้นก็เรียนรู้วิธีอ่าน และ เขียน เป็นอันดับสุดท้าย
🌕 เทคนิคการใช้ภาษา
การใช้ภาษาแสดงออกทางความคิด
     มนุษย์สามารถใช้ภาษาแสดงออกทางความคิดของตนได้ในลักษณะต่าง ๆ ดังนี้ คือ 
          1.ใช้ภาษาแสดงเหตุผล
          2.ใช้ภาษาแสดงทรรศนะ
          3.ใช้ภาษาในการโต้แย้ง
          4.ใช้ภาษาในการโน้มน้าวใจ
การใช้ภาษาแสดงเหตุผล 
ความหมายของคำว่าเหตุผล
      💟 เหตุผล หมายถึง ความคิดอันเป็นหลักทั่วไปกฎเกณฑ์ รวมทั้งข้อเท็จจริง ที่สนับสนุนข้อสรุป ข้อวินิจฉัย ข้อตัดสินใจ หรือข้อยุติ เกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เนื่องจากเราใช้ เหตุผล ในการสนับสนุน ข้อสรุป เราอาจจะเรียก เหตุผล ว่าข้อสนับสนุนก็ได้ และข้อสรุป เป็นคำกลาง ๆ เป็นศัพท์เฉพาะ ที่เกี่ยวกับการแสดงเหตุผล ในภาษาที่ใช้กันอยู่ตามปกตินั้นอาจเรียกว่า ข้อสังเกต,การคาดคะเน, คำวิงวอน, ข้อคิด, หรือการตัดสินใจ ก็ได้
      💟 ทรรศนะ คือ ความคิดเห็นที่ประกอบด้วยเหตุผล
โครงสร้างของการแสดงทรรศนะ ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 3 ส่วน คือ
     1.ที่มา คือ ส่วนที่เป็นเรื่องราวต่างๆที่ทำให้เกิดการแสดงทรรศนะ
     2.ข้อสนับสนุน คือ ข้อเท็จจริง หลักการ รวมทั้งทรรศนะหรือมติของผู้อื่น ที่ผู้แสดงทรรศนะนำมาใส่ เพื่อสนับสนุนทรรศนะของตน
     3.ข้อสรุป คือ สารสำคัญที่สุดของทรรศนะ อาจเป็นข้อเสนอแนะ ข้อวินิจฉัย หรือ ประเมินค่า
       💟 การโต้แย้ง คือ การสนทนาในการใช้ภาษา  ในการตอบโต้ของแต่ละฝ่าย
       💟 การโน้มน้าวใจ คือ การใช้ความพยายามที่จะเปลี่ยนความเชื่อ ทัศนคติค่านิยมและการกระทำของบุคคลอื่น ด้วยกลวิธีที่เหมาะสมให้มีผลกระทบใจบุคคลนั้น จนเกิดการยอมรับและยอมเปลี่ยนตามที่ผู้โน้มน้าวใจต้องการ
                       ที่มา : https://blog.eduzones.com/winny/3597
                         🍀 สรุป "ทักษะและเทคนิคการใช้ภาษา" 
             - ทักษะการใช้ภาษา มี 4 ทักษะ คือ การพูด การฟัง การอ่าน และการเขียน
             - เทคนิคการใช้ภาษา จะมีการทราบถึงเหตุผล แล้วก็ทรรศนะคติของภาษา การฟังน้ำเสียงที่เหมาะสม และการโน้มน้าวให้บุคคลนั้นๆ ทราบถึงการใช้ภาษาที่ถูกต้อง